วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558




                                                                     เรื่องพี่ชายแสนดี







มีบ้านหลังหนึ่งซุึงมีฐานะพออยู่พอใช้ ซึ่งมีลูกชาย 2 คน ลูกชายคนโต ชื่อ ลิบ กำลังศึกษาปริญญาตรี ลูกคนเล็ก ชื่อ เปอร์      กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6   พี่ชายเป็นคนขยัน มั่นเพียร เป็นคนนิสัยดี ชอบแบ่งปันสิ่งของ เป็นคนมีน้ำใจ กับเด็กและผู้ใหญ่  ส่วน เปอร ์ เป็นคนติดเกมส์ ชอบเที่ยว เป็นคนเกเร เป็นคนที่ชอบเล่นคนเดียว คนบอกอะไรก็มักจะชอบเถียง ชอบด่า  มีวันหนึ่งพี่ชายได้กลับมาพักที่บ้านเป็นเวลายาวนาน พี่ชายได้มาอยู่ประมาณ 5 วัน ก็ได้รู้นิสัยของเปอร์ ว่าเปอร์เป็นคนไม่ดี พี่ชายเลยได้ตักเตือนเปอร์เพราะเปอร์อยู่บ้าคนเดียวไม่มีใครมาอบรมสั่งสอน เพราะพ่อกับแม่ ได้เสียตอนเปอร์ยังเล็ก เพราะได้ประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรง  ลิบได้บอกให้เปอร์หยุดเล่นเกมส์ แล้วไปอ่านหนังสือ เพราะเปอร์ใกล้จะสอบแล้ว เปอร์ก็ไม่พอใจที่ลิบสั่งเปอร์ เปอร์เลยอารมณ์เสีย เลยจับรถจักยานต์ออกจากบ้านไปทันที พอเปอร์ออกไป ลิบได้เก็บห้องให้เปอร์เพราะมันรกมาก ลิบได้เก็บห้องแล้วลิบได้ไปเจอกล่องยาสูบที่ใต้ที่นอนเปอร์ลิบเห็นอย่างนั้นแล้ว ลิบเลยเอาไปเก็บไว้ เมื่อลิบเก็บห้องเสร็จเปอร์ก็ได้กลับมาบ้าน ลิบได้มายืนรอเปอร์ที่หน้าบ้าน พอเปอร์มาถึงเปอร์กำลังจะเข้าบ้านลิบได้ถามเปอร์ว่า ไปไหนมาเปอร์ทำไมกลับมาค่ำจัง เปอร์บอกว่า ไปเล่นกับเพื่อนมา พอถามกันเสร็จแล้ว ลิบบอกให้เปอร์ขึ้นไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวด้วยกัน ตอนนั้นเปอร์กับลิบกำลังกินข้าวนั้นลิบได้ยิบกล้องยาสูบขึ้น แล้วถามเปอร์ว่า ทำแบบนี้ทำไมเปอร์ รู้ไหมว่ามันไม่ดี ลิบได้ถามและอบรมเปอร์ เปอร์เลยบอกว่า ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับ ผมขอโทษ ผมจะตั้งใจเรียนและจะไม่ทำแบบนี้อีกน่ะครับพี่ลิบ ผมขอโทษ



และต่อมาเปอร์ก็เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ไม่ติดเกมส์ ไม่เป็นเด็กเกเร ชอบแบ่งปันสิ่งของให้เด็กและผู้ใหญ่ เมื่อลิบเห็นแบบนั้นแล้วลิบก็ดีใจที่เปอร์เป็นเด็กดี เป็นแบบนี้ลิบก็สบายใจแล้ว ที่เห็นเปอร์ดูแลตัวเองได้ เมื่อลิบเรียนจบแล้ว ลิบได้กลับมาแต่งงานอย่างมีความสุข


วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558


ครูบ้านนอก เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2521 กำกับโดยสุรสีห์ ผาธรรม เป็นภาพยนตร์สะท้อนปัญหาสังคมในชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับครูหนุ่มสาวที่เพิ่งจบใหม่จากวิทยาลัยครู และเดินทางไปสอนหนังสือในถิ่นทุรกันดาร ขาดไฟฟ้า แหล่งน้ำ และการสาธารณสุข แสดงให้เห็นวิถีการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่แบบเก่าของชาวชนบทในภาคอีสาน และปัญหาความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น
ภาพยนตร์ถ่ายทำที่บ้านดอนเมย ตำบลนาจิก อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือจังหวัดอำนาจเจริญ) ที่เป็นบ้านเกิดของคำหมาน คนไค เจ้าของบทประพันธ์โดยสมมุติเป็น "บ้านหนองหมาว้อ" ใช้นักแสดงหน้าใหม่ทั้งหมด เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2521 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมไทย [ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ ได้รายได้ถึง 9 ล้านบาท ได้รับความชื่นชมจากนักวิจารณ์ และถูกนำไปฉายยังต่างประเทศ ได้รับรางวัลภาพยนตร์สร้างสรรค์ และรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากประเทศรัสเซีย ในปี พ.ศ. 2552 สุรสีห์ ผาธรรมได้นำภาพยนตร์กลับมาสร้างใหม่โดย สหมงคลฟิล์ม นำแสดงโดย พิเชษฐ์ กองการ ฟ้อนฟ้า ผาธรรม และหม่ำ จ๊กมก ออกฉายในวันครู 14 มกราคม พ.ศ. 2553ใช้ชื่อภาพยนตร์ว่า ครูบ้านนอก บ้านหนองฮีใหญ่ 
ในงานเลี้ยงส่งนักศึกษาในวิทยาลัยครูแห่งหนึ่ง ทุกคนสนุกสนานกับการสังสรรค์จากการจัดงานอำลาสถานบันจากวงดนตรีสมัยใหม่ ในขณะที่ ครูปิยะ เดินเลี่ยงออกจากงานมายืนชมนิทรรศการวิถีชีวิตของชาวอีสานอย่างสนใจ นับเป็นแรงบันดาลใจให้เขาตัดสินใจสอบบรรจุเป็นเพื่อรับราชการครูที่ภาคอีสาน โดยบรรจุครั้งแรกที่โรงเรียนบ้านหนองหมาว้อ พร้อมกับ ครูดวงดาว หญิงสาวรูปร่างบอบเบา และ ครูพิสิษฐ์ ครูหนุ่มมาดสำอางค์ โดยมี ครูคำเม้า เป็นครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองหมาว้อมีเพียงอาคารเรียนชั่วคราวชั้นเดียวพื้นติดดิน นักเรียนต้องเรียนรวมกันโดยไม่มีการแบ่งกั่นห้องเป็นพื้นที่เป็นสัดส่วนในแต่ละห้อง สภาพนักเรียนสวมเสื้อผ้าขาด ร่างกายมอมแมม ครูปิยะคือตัวแทนของหนุ่มสาวที่มีความมุ่งมั่นในอุดมการณ์เพื่อพัฒนาการศึกษาและสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า มีการนำความรู้ภูมิปัญญาการเล่านิทานในท้องถิ่นของ เคนคนผีบ้า ผู้เฒ่าแห่งหมู่บ้าน มาเป็นประยุกต์เป็นการสอนการท่องจำในชั้นเรียน

นขณะที่ครูใหญ่คำเม้าครูรุ่นเก่าที่ทำหน้าที่สอนหนังสือโดยยึดหลักปรัชญา “เลข คัด เลิก” ส่วนครูพิสิษฐ์ครูหนุ่มเจ้าสำราญที่เคยใช้ชีวิตในสังคมเมืองที่ต้องจำใจมาสอบบรรจุครู ต่อมาครูพิสิษฐ์มีคำสั่งให้ย้ายไปสอนในเมืองเพราะมีเรื่องชกต่อยกับเจ้าหน้าที่ที่มาตรวจราชการที่โรงเรียนลวนลามครูดวงดาว ครูปิยะได้เก็บความสงสัยไว้ในใจเกี่ยวกับรถขนไม้ที่วิ่งผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน เพราะครั้งหนึ่งเกิดเหตุการณ์ท่อนซุงขนาดใหญ่หล่นจากรถบรรทุกตกลงมาในสนามโรงเรียน ครูปิยะจึงพบว่าทั้งหมดเป็นไม้เถื่อน จึงแอบเข้าไปถ่ายรูปในปางไม้ของ นายมังกรผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเพื่อส่งข่าวไปให้หนังสือพิมพ์ จึงทำให้ครูปิยะต้องหนีภัยมืดออกจากบ้านหนองหมาว้อไปอาศัยอยู่กับหลวงตาอยู่ในเมือง แต่ด้วยอุดมการณ์และจิตสำนึกของความเป็นครู ครูปิยะจึงกลับคืนมาสอนที่โรงเรียนโรงเรียนบ้านหนองหมาว้ออีกครั้งท่ามกลางการต้อนรับของครูและนักเรียน เพียงแต่ครูปิยะขี่จักรยานเข้าสู่รั้วโรงเรียนเท่านั้นมือปืนได้ยิงปืนโดนสู่ร่างของครูปิยะจนจักรยานล้มลงสู่พื้นดิน ท่ามกลางความตกตะลึงของครูและนักเรียน จนครูปิยะได้เสียชีวิต สิ้นใจตาย